วิทยา
ย้ำให้ทุกจังหวัดควบคุมโรคมือเท้าปาก เต็มพิกัดไม่มีวันหยุด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ย้ำให้ทุกจังหวัดควบคุมการแพร่ระบาดของโรคมือเท้าปากอย่างเต็มพิกัด
ไม่มีวันหยุด สถานการณ์ตามแนวชายแดนขณะนี้ควบคุมได้
ไม่พบเด็กไทยติดเชื้อจากกัมพูชา
ย้ำผู้บริหารโรงเรียนเข้าใจมาตรการปิดโรงเรียนทำความสะอาดหลังพบเด็กป่วยมือเท้าปาก
เป็นเรื่องปกติที่ทุกประเทศดำเนินการ
ไม่ใช่เรื่องเสียหายหรือเสียชื่อเสียงแต่อย่างใด
เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันเชื้อแพร่สู่เด็กอื่น
วันนี้ (29กรกฎาคม 2555)
นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าของโรคมือเท้าปากว่า
กระทรวงสาธารณสุขไม่ได้นิ่งนอนใจในการควบคุมป้องกันโรคมือเท้าปาก
ขณะนี้ได้เร่งรัดประชุม
กำชับให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศดำเนินการควบคุมการแพร่ระบาด
ตัดวงจรเชื้ออย่างเต็มพิกัดทุกมาตรการ โดยไม่มีวันหยุด
สถานการณ์ขณะนี้ยังพบเด็กป่วยประปรายหลายพื้นที่ เพราะอยู่ในช่วงฤดูฝน
โอกาสเกิดโรคในพื้นที่มีง่าย ส่วนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา หรือไทย-ลาว
เช่นที่อุบลราชธานี สุรินทร์ศรีสะเกษ สระแก้ว
พบเด็กไทยป่วยเป็นมือเท้าปากบ้างตามปกติ
แต่เด็กเหล่านี้ไม่ได้ติดเชื้อจากประเทศเพื่อนบ้าน
โดยที่จังหวัดศรีสะเกษ ได้รับรายงานมีเด็กป่วยโรคมือเท้าปาก อายุ
1 ปี 4 เดือน อาศัยอยู่เขตชั้นในของพื้นที่ มีอาการหนัก เหนื่อยหอบ
แพทย์ใส่เครื่องช่วยหายใจดูแลเต็มที่ ล่าสุดนี้อาการดีขึ้น
แพทย์ถอดเครื่องช่วยหายใจแล้ว
นายวิทยากล่าวต่อไปว่า ได้ให้ทุกจังหวัดเร่งทำความเข้าใจผู้ปกครองทุกคน
หากสงสัยว่าบุตรหลานเป็นมือเท้าปากเช่นมีไข้ มีตุ่มใสขี้นตามมือ
ตามเท้า หรือในช่องปาก ขอให้พาไปพบแพทย์
เพื่อให้ได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง และทำความสะอาดบ้านเรือน
สิ่งของเครื่องใช้ ดูแลความสะอาดส่วนบุคคล โดยเฉพาะการล้างมือบ่อยๆ
จะตัดวงจรไม่ให้เชื้อแพร่ระบาดดีที่สุด
และทำความเข้าใจผู้บริหารโรงเรียนทั้งรัฐและเอกชนทุกแห่ง
ศูนย์เด็กเล็กและเนิร์สเซอรี่
ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
ขอย้ำว่าการปิดโรงเรียนจากโรคมือเท้าปาก
เป็นเรื่องปกติที่ดำเนินการในทุกประเทศ ไม่ใช่เรื่องน่าเสียหาย
แต่เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันป้องกันและสร้างความปลอดภัยลูกหลานจากโรคนี้
และแสดงถึงมาตรฐานของโรงเรียนในการดูแลสุขภาพนักเรียนที่ดีมาก
ด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต
ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า สถานการณ์โรคมือเท้าปากขณะนี้
ยังพบผู้ป่วยต่อเนื่อง แต่พบในอัตราชะลอตัวลง
เนื่องจากผลของมาตรการที่เคร่งครัดทั้งสถานศึกษา ศูนย์เด็กเล็ก
ทำให้ตัดวงจรเชื้อได้เร็ว จำนวนผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงวันที่
29 กรกฎาคม 2555 มีผู้ป่วยทั้งหมด 17,656 ราย เสียชีวิต2รายเท่าเดิม
ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้จัดระบบการแพทย์เพื่อดูแลผู้ป่วยโรคนี้เป็นกรณีพิเศษ
แม้ว่าความรุนแรงของโรคจะน้อยกว่าไข้เลือดออกก็ตาม โดยทุกแห่งมีกุมารแพทย์ มีเครื่องช่วยหายใจดูแลเต็มที่
และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 1 ชุด เป็นที่ปรึกษาแก่แพทย์ผู้รักษาตลอด 24
ชั่วโมง เพื่อป้องกันการเสียชีวิตให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้
จะต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชน ผู้ปกครอง เมื่อเด็กป่วยให้รีบพามา
อย่าปล่อยให้อาการหนัก
เพราะโอกาสเสี่ยงการเสียชีวิตจะเพิ่มเพราะโรคนี้ไม่มียารักษาโดยตรง
****************** 29 กรกฎาคม
2555
|